RUN บ่อบำบัดน้ำเสียเพิ่มประสิทธิภาพบ่อบำบัดน้ำเสียด้วยจุลินทรีย์หอมคาซาม่า บำบัดน้ำเสียแบบมืออาชีพ ต้องจุลินทรีย์หอมคาซาม่า จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียที่มีกลิ่นหอม ใช้เป็นจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียได้ทุกๆระบบบำบัด ได้ประโยชน์ทั้งการบำบัดน้ำเสีย(ย่อยสลายของเสีย)และการบำบัดกลิ่น(ดับกลิ่น)ในบ่อบำบัดน้ำเสียในเวลาเดียวกันทันที จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียที่มีกลิ่นหอมเจ้าแรกของประเทศไทย
สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการบำบัดน้ำเสียและในระบบบำบัดน้ำเสียทุกๆระบบคือ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย( จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ) เป็นตัวจักรสำคัญมากที่สุดในการบำบัดน้ำเสียจากทุกๆแหล่งและทุกๆระบบบำบัด ปัญหาของการบำบัดน้ำเสีย จุดที่ยากและสลับซับซ้อนมากที่สุดก็คือ ปัญหาทางด้านเทคนิค ทั้งการบำบัดน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมีหลายๆส่วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กัน เช่น ปัญหาค่ามาตรฐานน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์มาจากอะไร? มีกี่ค่า ? แต่ละค่าต้องแก้ไขอย่างไร ? ปรับระบบอย่างไรเพื่อให้ระบบมีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย? เป็นต้น ซึ่งต้องใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญเป็นกรณีพิเศษ ไม่ใช่เพียงแค่การใช้จุลินทรีย์บำบัดแล้วก็จบเท่านั้น ปัญหาทางด้านเทคนิคของการบำบัดน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสีย การปรับลดบางค่า หรือการเพิ่มบางค่าในระบบบำบัดจะพบบ่อยๆ ซึ่งต้องอาศัยผู้ที่รู้ลึกและรู้จริงเท่านั้น ที่นี่..เราแนะนำให้ลูกค้าของเราฟรีๆ เพิ่มค่า DO และลดค่า BOD ในบ่อบำบัดน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียด้วย จุลินทรีย์หอมคาซาม่า ( ย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียทำให้ค่า SS , TSของแข็งลด ส่งผลให้ค่า BOD ลดลงไปด้วย ) Clean , Reboot , Run บ่อบำบัดน้ำเสียอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบ่อบำบัดน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียได้ดีมากขึ้น วิกฤตน้ำเสียในบ่อบำบัดจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ในบ่อบำบัดน้ำเสียมีจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียน้อยหรือแทบไม่มีเลย จะทำให้เกิดสภาวะน้ำเสียรุนแรงมากขึ้นและติดตามมาด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ
จุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียมีความสำคัญและความจำเป็นอย่างมากในบ่อบำบัดน้ำเสียทุกๆแห่ง ถ้าจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียในบ่อบำบัดน้ำเสียมีน้อยจะทำให้เกิดปัญหาบ่อบำบัดน้ำเสียเริ่มส่งกลิ่นเหม็นมากขึ้นเรื่อยๆ นี่คือความสำคัญของจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียต่างๆในบ่อบำบัดน้ำเสีย Clean ระบบบำบัดน้ำเสีย ในการทำความสะอาดระบบบำบัดน้ำเสีย ( ทุกๆบ่อบำบัด ) ควรปฏิบัติเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อกำจัดของเสียที่ติดค้างอยู่ในระบบบำบัดหรือบ่อบำบัดออกไปให้หมดก่อนที่จะ REBOOT ระบบใหม่ REBOOT บ่อบำบัดน้ำเสียของท่านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ดับกลิ่นเหม็นในบ่อบำบัดน้ำเสีย ด้วยจุลินทรีย์หอมคาซาม่า เมื่อทำความสะอาดระบบบำบัดน้ำเสียเรียบร้อยแล้ว เตรียม REBOOT ระบบขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ระบบทำงานให้มีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียเหมือนเดิม เครื่องมือและแุปกรณ์ต่างๆทุกส่วนพร้อมทำงาน ( RUN ระบบ ) RUN บ่อบำบัดน้ำเสียของท่านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ด้วยจุลินทรีย์หอมคาซาม่า ช่วยให้การย่อยสลายสมบูรณ์มากขึ้น ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ่อบำบัดน้ำเสียได้มากขึ้น ในการ RUN ระบบบำบัดน้ำเสียนั้น โดยทั่วๆไปจะใช้เวลาในการ RUN ระบบประมาณ 1 สัปดาห์จุลินทรีย์ย่อยสลาย(บำบัดน้ำเสีย)จึงจะเพียงพอสำหรับใช้งานในระบบบำบัด แต่ถ้ามีการเพิ่มหรือเติมจุลินทรีย์ย่อยสลายเข้าไปในระบบบำบัด ระบบก็จะทำงานได้ทันที เพราะมีจุลินทรีย์ย่อยสลายในการเริ่มต้น ( RUN )ของระบบให้มีการย่อยสลายของเสีย(บำบัดน้ำเสีย)เกิดขึ้นทันทีไม่ต้องรอการ RUN ระบบเป็นสัปดาห์
ระบบบำบัดน้ำเสียของท่านสมบูรณ์แบบหรือยัง ? ออกซิเจนที่ละลายในบ่อบำบัดน้ำเสียของท่านมีมากพอไหม? ทำไมต้องให้ออกซิเจนละลายในน้ำเสีย? จำเป็นอย่างไรที่ต้องพึ่งพาออกซิเจนในน้ำเสีย? ไม่มีไม่ได้หรือ? จะเสียหายอะไรถ้าไม่มีออกซิเจนในน้ำเสีย? เพราะน้ำเสียมากออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียนั้นก็ไม่มีแล้ว นี่คือคำถามต่างๆที่ยังคาอยู่ในใจหลายๆท่านที่อยากรู้ การบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากๆ ในการบำบัดน้ำเสียให้กลายไปเป็นน้ำดีนั้นต้องพึ่งพาและอาศัยกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสียนั้นๆ ระบบบำบัดน้ำเสียทุกๆระบบออกแบบมาเพื่อต้องการดึงเอาจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่มีอยู่ในธรรมชาติมาใช้ในการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสีย โดยเฉพาะกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลักในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสีย การเติมออกซิเจนลงในน้ำเสียก็เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำเสียเพื่อให้กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ดึงไปใช้ในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายนั่นเอง ปัญหาของระบบบำบัดน้ำเสียส่วนใหญ่ที่ไม่สมบูรณ์เพราะการขาดออกซิเจนที่ละลายในน้ำเสีย ( ค่าออกซิเจนที่ละลายในน้ำเสียมีน้อยหรือค่า DO ต่ำหรือแทบไม่มีเลย )ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มปริมาณของกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายทางออกการแก้ไขปัญหานี้จึงนิยมเติมหรือเพิ่มกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการบำบัดน้ำเสียชนิดที่ไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลาย ( กลุ่มจุลินทรีย์ em ) ซึ่งสามารถทำงานได้ดีเหมือนกลุ่มที่ใช้ออกซิเจนและสามารถทำงานร่วมกันได้ทั้งสองกลุ่มจุลินทรีย์นี้ เป็นการเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียให้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสียให้สมบูรณ์ขึ้น
จะเริ่มต้นบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียและบ่อบำบัดน้ำเสียของท่านอย่างไร ? 1. อันดับแรกให้ทำการตรวจสอบระบบทั้งหมดว่ายังใช้การทำงานได้ดีอยู่หรือไม่ ? มีสิ่งใดที่มีปัญหาในระบบบำบัดหรือบ่อบำบัดแล้วทำการแก้ไขปัญหานั้นๆ 2. อันดับต่อมาก็คือ การตรวจสอบหรือการเช็คค่าพารามิเตอร์ในระบบบำบัดและบ่อบำบัดน้ำเสียของท่าน โดยการเก็บตัวอย่างน้ำเสียตรวจสอบค่าพารามิเตอร์ต่างๆในห้องปฏิบัติการว่าได้ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งที่ทางราชการกำหนดหรือไม่ โดยการเก็บตัวอย่างน้ำเสียในบ่อแรก ( น้ำเสียก่อนบำบัด ) และ บ่อสุดท้าย ( น้ำเสียหลังบำบัดแล้ว ) ซึ่งจะทำให้รู้ค่าพารามิเตอร์ต่างๆทั้งก่อนบำบัด ( ในบ่อแรก ) และหลังบำบัด ( บ่อสุดท้าย ) ซึ่งจะทำให้รู้ว่าน้ำเสียในบ่อบำบัดของท่านผ่านมาตรฐานน้ำทิ้งหรือไม่ ระบบบำบัดน้ำเสียของท่านมีประสิทธิภาพหรือไม่ ค่าพารามิเตอร์ต่างๆในบ่อสุดท้ายจะเป็นตัวชี้วัดระบบบำบัดน้ำเสียของท่านว่าผ่าน ( บำบัดน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ )หรือไม่ผ่าน ( ล้มเหลว ) ระบบบำบัดน้ำเสียแทบจะทุกๆระบบ ( ยกเว้น AS และ RBC ) ส่วนใหญ่ระบบยังไม่สมบูรณ์ คือ การบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดียังด้อยคุณภาพอยู่ ดังนั้น น้ำเสียส่วนใหญ่จึงยังไม่ได้รับการบำบัดที่สมบูรณ์ตามไปด้วย อาจจะบำบัดได้เพียงเล็กน้อย บางแห่งอาจจะบำบัดได้ไม่ถึง 50% ของความสมบูรณ์ของระบบบำบัด น้ำเสียก็ยังคงเป็นน้ำเสียต่อไป สร้างมลภาวะและมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมสาธารณะต่อไป การทำให้ระบบบำบัดน้ำเสียทำงานให้ได้อย่างสมบูรณ์นั้น ต้องดูปัจจัยหลายๆด้านเป็นองค์ประกอบ ทั้งการออกแบบระบบ การดึงออกซิเจนในน้ำเสีย ปริมาตรของน้ำเสีย การเติมอากาศ ฯลฯ องค์ประกอบเหล่านี้จะเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์ของระบบบำบัด สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากๆในระบบก็คือ ปริมาณของจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสีย ต้องมีปริมาณที่มากพอ ( ควรมากกว่าของเสียและน้ำเสีย ) ออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียในบ่อบำบัดนั้นๆต้องมีมากพอเช่นกัน ค่าพารามิเตอร์ทุกๆตัวต้องเข้าใกล้มาตรฐาน สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญและความจำเป็นต่อระบบบำบัดน้ำเสียทุกๆระบบ ในบ่อบำบัดน้ำเสียมีความต้องการจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย โดยต้องการจุลินทรีย์ทั้งกลุ่มที่ใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสีย ( Aerobic bacteria และ Anaerobic bacteria ) ในปริมาณที่มากกว่าของเสียและน้ำเสีย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการบำบัดน้ำเสียในระบบบำบัดให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จุลินทรีย์หอมคาซาม่าใช้ได้ดีกับระบบบำบัดน้ำเสียทุกๆระบบในระบบบำบัดน้ำเสียทั้ง 6 แบบ ระบบบำบัดน้ำเสียทุกๆระบบที่สร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะลงทุนน้อยหรือลงทุนมาก ล้วนต้องใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลายของเสียต่างๆและบำบัดน้ำเสียทั้งสิ้น ดังนั้น จะเห็นได้ว่าจุลินทรีย์จะเป็นตัวสำคัญในกลไกบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสีย ถ้าปราศจากจุลินทรีย์ย่อยสลายแล้ว ของเสียและน้ำเสียก็จะล้นโลก โลกก็จะเต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลต่างๆมากมาย แต่ในความเป็นจริงในระบบบำบัดน้ำเสียส่วนใหญ่จะมีปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายในระบบน้อยกว่าปริมาณของเสีย ( ยกเว้นระบบ AS และ RBC ที่สามารถเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ได้ตามความต้องการ ) ดังนั้น จึงเกิดปัญหาต่างๆติดตามมา ทั้งปัญหาเรื่องกลิ่น ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม ค่าพารามิเตอร์ไม่ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ( ส่วนใหญ่จะมีค่าต่ำมากหรือสูงมากในบางค่า ) จึงไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่กฎหมายสิ่งแวดล้อมกำหนดไว้ ระบบบำบัดน้ำเสียส่วนใหญ่จะมีจุดด้อยในจุดนี้ เพราะระบบส่วนใหญ่จะเป็นระบบแบบง่ายๆ ( แบบเติมอากาศหรือแบบลากูน ) การเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์แบบใช้ออกซิเจนเข้าไปในระบบให้มากขึ้นค่อนข้างทำได้ยาก ต้องใช้แอเรเตอร์เพิ่มขึ้นและกำลังมากขึ้น แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะได้ปริมาณจุลินทรีย์เพิ่มขึ้นตามปริมาณที่เราต้องการให้มีในระบบ การเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ให้มากขึ้นในระบบบำบัดน้ำเสียจะส่งผลดีและมีประสิทธิภาพในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย นั่นคือ สิ่งที่ระบบบำบัดน้ำเสียต้องการ เพื่อให้ระบบสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพในการย่อยสลายของเสียต่างๆและบำบัดน้ำเสียได้ดีมากขึ้น จุลินทรีย์หอมคาซาม่าจัดทำขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาดังที่กล่าวมาข้างต้น เราสังเคราะห์ขึ้นมาจากหัวเชื้อของจุลินทรีย์แบบไม่ใช้อากาศต้นฉบับโดยตรง เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หลายด้าน มีประสิทธิภาพในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย รวมไปถึงการดับกลิ่นหรือกำจัดกลิ่นเน่าเหม็นจากสารอินทรีย์ สามารถทำงานร่วมกันกับจุลินทรีย์ชนิดใช้ออกซิเจนได้เป็นอย่างดี ทำหน้าที่คล้ายๆกัน ดังนั้น จึงสามารถนำมาใช้ทดแทนกันได้ ในสภาวะที่ในน้ำเสียไร้ออกซิเจนละลายอยู่ในน้ำเสียนั้น จุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนไม่สามารถทำงานย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียได้ ดังนั้น จึงต้องหันไปเพิ่งกลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็มที่ไม่ใช้ออกซิเจนในน้ำเสียในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย นี่คือทางออกในการแก้ไขปัญหาในน้ำเสียไม่มีออกซิเจนละลายอยู่ ( ค่า DO ต่ำหรือแทบเป็น 0 ) จุลินทรีย์อีเอ็มสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ง่ายกว่าจุลินทรีย์ชนิดที่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยา ต้นทุนต่ำกว่าและง่ายกว่า ดังนั้น จึงเป็นทางเลือกในการ RUN & REBOOT ระบบบำบัดน้ำเสียของท่าน ไม่ว่าระบบจะเล็กหรือขนาดใหญ่ สามารถทำได้ทั้งนั้นในทุกๆระบบ เป็นผลดีต่อระบบโดยตรง กรณ๊ที่ระบบบำบัดน้ำเสียชนิด AS หรือ RBC ล่มหรือเสียรอซ่อม ก็สามารถนำจุลินทรีย์หอมคาซาม่าไปทดแทนได้ระหว่ารอซ่อมและ RUN ระบบอีกครั้ง โดยไม่ต้องรอให้ซ่อมแล้วเสร็จก่อน เพราะของเสียและน้ำเสียเกิดขึ้นในทุกๆวัน น้ำเสียที่เกิดขึ้นไม่สามารถรอระบบให้เสร็จก่อนได้ ต้องทำการบำบัดทันทีก่อนที่จะปล่อยทิ้งออกสู่สิ่งแวดล้อมต่อไป ระบบบำบัดน้ำเสีย แบ่งออกเป็น 6 แบบ ได้แก่ 1.ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อปรับเสถียร (Stabilization Pond) ทุกๆระบบที่กล่าวมาล้วนต้องการออกซิเจนเข้าไปทำปฏิกิริยาในระบบ เพราะจุลินทรีย์ที่ใช้ในระบบเป็นแบบใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย อีกทั้งน้ำก็ต้องการออกซิเจนเพื่อให้เป็นน้ำดี เพราะถ้าค่าออกซิเจนในน้ำต่ำกว่า 3 ( ค่า DO < 3 )ก็จะเป็นน้ำเสียถึงน้ำจะมีสีใสก็ตาม ยังถือว่าเป็นน้ำเสียอยู่ ดังนั้น ออกซิเจนในน้ำจึงมีความสำคัญมาก น้ำดีหรือน้ำเสียจึงดูค่า DO เป็นจุดหลัก ส่วนค่าพารามิเตอร์ตัวอื่นๆเป็นส่วนประกอบที่สำคัญไล่เลี่ยกันไป ของเสียและน้ำเสียในบางหน่วยงานจะค่อนข้างวิกฤตในปัจจุบัน เพราะของเสียมากขึ้น น้ำเสียเพิ่มมากขึ้น จนระบบย่อยสลายและบำบัดไม่ทัน จึงเกิดการเน่าเหม็นส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งทำให้รู้ว่าระบบนั้นมีปัญหาในเรื่องของปริมาณจุลินทรีย์ในระบบนั้นๆมีปริมาณน้อยกว่าของเสียและน้ำเสียที่เกิดขึ้นจริง ทางออกคือการเติมหรือเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์เข้าไปในระบบให้เพียงพอหรือมากกว่าปริมาณของเสียและน้ำเสีย การเติมหรือเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาทำได้ค่อนข้างยาก ยกเว้นระบบ AS และ RBC สามารถทำได้โดยระบบของมันเอง แต่ก็อย่างว่า ถ้าสองระบบนี้เกิดชำรุดหรือเสียขึ้นมา ก็ไม่มีจุลินทรีย์อยู่ในระบบหรือมีแต่ปริมาณน้อยกว่าของเสียและน้ำเสีย สิ่งที่ติดตามมาก็คือ น้ำเสียเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นมากยิ่งขึ้น แล้วจะทำอย่างไร? ทางออกของปัญหานี้ก็คือ เติมหรือเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ชนิดไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลาย ( จุลินทรีย์อีเอ็ม)เข้าไปในระบบให้มากหรือเพียงพอกับปริมาณของเสียและน้ำเสียที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากกลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็มจะไม่ใช้ออกซิเจนในน้ำมาทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียเหมือนกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจน กลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายต้องอาศัยออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียนั้นทุกๆครั้งตลอดเวลา ถ้าน้ำเสียนั้นมีออกซิเจนละลายอยู่น้อยหรือแทบไม่มีเลย ( น้ำเสียวิดฤตมาก )ปัญหาที่ตามมาก็คือ กลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนไม่สามารถทำงานย่อยสลายของเสียในน้ำนั้นได้ แต่ขณะเดียวกันกลุ่มจุลินทรีย์ที่ไม่ใช้ออกซิเจน ( จุลินทรีย์อีเอ็ม )สามารถทำงานย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียได้ทันที ออกซิเจนไม่มีความจำเป็นกับกลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็มกลุ่มนี้ ดังนั้น น้ำเสียที่วิกฤตมากๆ ( ออกซิเจนที่ละลายในน้ำเสียนั้นมีน้อยหรือแทบไม่มีเลย ) จุลินทรีย์อีเอ็มจึงสามารถทำงานทดแทนย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียได้ทันที ประสิทธิภาพไม่ค่อยแตกต่างกันจากจุลินทรีย์กลุ่มที่ใช้ออกซิเจน จึงเป็นทางเลือกในปัจจุบันที่จะนำจุลินทรีย์อีเอ็มมาเสริมประสิทธิภาพการย่อยสลายในระบบบำบัดน้ำเสียในทุกๆระบบที่กล่าวมาข้างต้น จะทำให้ระบบบำบัดน้ำเสียและการย่อยสลายของเสียมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น จุดบอดหรือจุดด้อยของระบบบำบัดน้ำเสียของอาคารสำนักงานต่างๆและอาคารชุดคอนโดมิเนี่ยมคือ ในเรื่องของพื้นที่ที่ใช้สร้างบ่อบำบัดน้ำเสียมีพื้นที่น้อยและจำกัด สร้างบ่อบำบัดน้ำเสียได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร ( อาคารสำนักงานทั่วๆไปและอาคารชุดคอนโดมิเนียมมีปริมาณน้ำเสียค่อนข้างมาก ) น้ำเสียมีมาก ในขณะที่บ่อรับน้ำเสียและบ่อบำบัดน้ำเสียทำได้จำกัดและมีจำนวนบ่อรับน้ำเสียน้อยกว่าปกติ ( ส่วนมากไม่เกิน 3 บ่อ ) ในการบำบัดน้ำเสียนั้นต้องใช้ระยะเวลาบำบัดและย่อยสลาย ซึ่งจุลินทรีย์ย่อยสลายจะทำหน้าที่นี้ ยิ่งน้ำเสียที่มีสารอินทรีย์ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ยิ่งต้องใช้ระยะเวลาย่อยสลายนานมากขึ้น จึงส่งผลให้น้ำเสียตามอาคารสำนักงานและอาคารชุดส่วนใหญ่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของทางราชการกำหนดไว้ การที่จะทำให้ระบบบำบัดน้ำเสียมีประสิทธิภาพ ( บำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดีได้ )ได้นั้นสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน ซึ่งต้องดูข้อมูลของระบบบำบัดน้ำเสียแต่ละสถานที่เป็นหลักในการแก้ไขปัญหา อาจต้องแก้ไขทั้งทางด้านกายภาพ ชีวภาพหรือทางเคมี ซึ่งต้องใช้ทั้งความรู้รอบด้านและความเข้าใจเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียในการแก้ไขปัญหา อธิบายกระบวนการบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ AS + จุลินทรีย์หอมคาซาม่า ( ภาพบน ) จากภาพบนเป็นการบำบัดน้ำเสียระบบ AS เติมอากาศ ( จุลินทรีย์ย่อยสลายชนิดใช้ออกซิเจน ) + จุลินทรีย์หอมคาซาม่า ( ไม่ใช้ออกซิเจนในการย่อยสลาย ) จะเห็นได้ว่าถ้าเป็นระบบบำบัดน้ำเสียแบบ AS เดิมในบ่อที่ 1 จะเป็นบ่อรับน้ำเสียและตกตะกอนเบื้องต้นธรรมดาเท่านั้น ( การย่อยสลายเกิดขึ้นน้อยมากในบ่อนี้ ) ก่อนที่จะผ่านเข้าไปบ่อเติมอากาศบ่อที่ 2 ซึ่งเป็นบ่อที่ทำการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียได้มากที่สุดในระบบนี้ ( บ่อย่อยสลายของเสียโดยใช้จุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจน ) และส่งต่อไปยังบ่อพักน้ำทิ้งที่บำบัดแล้วในบ่อที่ 3 ( ตามภาพบน ) การบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียส่วนใหญ่ในระบบ AS นี้จะเกิดขึ้นในจุดเดียวคือ บ่อเติมอากาศ ( มีจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจน ) ซึ่งมีกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนเป็นตัวทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียต่างๆและบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดี แต่เมื่อเติมจุลินทรีย์หอมคาซาม่าเข้าไปเพิ่มเติม ( ในบ่อที่ 1 ) จะเกิดการย่อยสลายในบ่อที่ 1 หรือบ่อแรกเพิ่มขึ้นทันทีอีกจุดหนึ่ง ( เหมือนบ่อเติมอากาศ ) กลุ่มจุลินทรีย์หอมคาซาม่าเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่ไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ดังนั้น ออกซิเจนจึงไม่มีความจำเป็นสำหรับจุลินทรีย์หอมคาซาม่า สามารถทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียในน้ำเสียนั้นๆได้ทันที จะเห็นได้ว่าการย่อยสลายของเสียเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 จุดหรือ 2 บ่อ ( บ่อที่ 1 และ บ่อเติมอากาศ ) ซึ่งเป็นการบำบัดน้ำเสียแบบดับเบิ้ล คือ บ่อที่ 1 จุลินทรีย์หอมคาซาม่าเป็นตัวบำบัด ( ย่อยสลายของเสียต่างๆ )เป็นด่านแรกก่อนที่จะส่งต่อไปบำบัดอีกชั้นหนึ่งที่บ่อเติมอากาศ ( มีจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนย่อยสลาย ) จึงส่งผลให้ประสิทธิภาพการย่อยสลายของเสียและการบำบัดน้ำเสียทำได้ดีมากยิ่งขึ้น ค่าพารามิเตอร์ต่างๆจะลดลงตั้งแต่การย่อยสลายหรือการบำบัดในบ่อแรกแล้ว การบำบัดและย่อยสลายของเสียต่างๆซ้ำในบ่อเติมอากาศ ( โดยจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจน ) ยิ่งจะทำให้ค่าพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น BOD , SS , TDS , FOG , TKN ลดลงมากยิ่งขึ้นไปอีก ตะกอนต่างๆก็จะลดลงเหลือน้อยมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นเพราะประสิทธิภาพการบำบัดสองชั้นดังกล่าว ( บำบัดด้วยจุลินทรีย์หอมคาซาม่าในบ่อแรกและบำบัดด้วยจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนในบ่อเติมอากาศ) จึงส่งผลให้ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งดีขึ้นกว่าปกติที่เคยเป็น ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งผ่านเกณฑ์ได้ง่ายขึ้นเป็นเพราะผลของการบำบัดหรือการย่อยสลายของเสีย 2 ชั้น ปฏิกิริยาการย่อยสลายก็จะรวดเร็วขึ้นกว่าปกติ ของเสียต่างๆในน้ำเสียจึงไม่เป็นภาระหนักให้กับบ่อเติมอากาศเพียงจุดเดียวอีกต่อไป ( ไม่เป็นภาระหนักให้กับจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจน ) ที่อาจย่อยสลายของเสียได้ไม่หมดหรือย่อยสลายได้เพียงบางส่วนเล็กน้อย จึงส่งผลให้ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์ในบ่อสุดท้ายบ่อยๆได้
สรุป จุลินทรีย์หอมคาซาม่าไปเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียในระบบ AS และยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียให้กับกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนในบ่อเติมอากาศอีกชั้นหนึ่ง การย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษ ส่งผลให้ระบบบำบัดน้ำเสียสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เป็นการบำบัดน้ำเสียโดยการใช้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย 2 กลุ่ม คือ กลุ่มจุลินทรีย์หอมคาซาม่า ( ไม่ใช้ออกซิเจน ) และกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก ทำให้สสารที่เจือปนอยูในน้ำเสียถูกย่อยสลายได้มากขึ้นและเร็วขึ้นกว่าปกติทั่วๆไป หมายเหตุ : จุลินทรีย์หอมคาซาม่า สามารถใช้ได้กับระบบบำบัดน้ำเสียได้ทุกๆระบบ ( ในทั้งหมด 6 ระบบ ) นอกจากบำบัดน้ำเสียได้ดีแล้ว ยังมีคุณสมบัติเด่นๆในเรื่องของการกำจัดกลิ่นหรือดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆเพิ่มอีกด้วย การบำบัดน้ำเสียโดยใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย อย่างที่กล่าวมาแล้วว่า การบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียต่างๆต้องใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลาย ซึ่งกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียต่างๆยังจำแนกออกเป็น 2 กลุ่มดังต่อไปนี้. - 1. กลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลักในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายและการดำรงชีพเจริญเติบโต 2. กลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสีย ( ใช้วิธีการแลกอิเล็คตรอนกับสารประกอบต่างๆ ) ที่นี่...จำหน่ายจุลินทรีย์หอมบำบัดน้ำเสีย จุลินทรีย์หอมย่อยสลายของเสียในน้ำเสีย ขายจุลินทรีย์หอมดับกลิ่น ( ไม่พึงประสงค์ ) จำหน่ายจุลินทรีย์หอมกำจัดกลิ่น ( ไม่พึงประสงค์) ซึ่งกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นต้องมีที่มาหรือสาเหตุมาจากอินทรีย์วัตถุเท่านั้น ( ไม่ใช่สารเคมี ) ถ้าใช้จุลินทรีย์หอมดับกลิ่นที่เกิดจากสารเคมี ในบางกรณีอาจส่งผลให้จุลินทรีย์ตายได้ เพราะจุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะถ้าสารเคมีนั้นๆมีฤทธิ์เป็นกรดหรือเป็นด่างที่มีฤทธิ์ทำลายล้างสูง ยิ่งเป็นอันตรายต่อจุลินทรีย์โดยตรง แต่ถ้าสารเคมีนั้นๆไม่มีคุณสมบัติหรือมีฤทธิ์ทำอันตรายต่อจุลินทรีย์ก็สามารถอนุโลมใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่นได้ แต่อาจจะไม่ตรงจุดตรงประเด็น การดับกลิ่นหรือกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ต้องไม่ใช่การกลบกลิ่นชั่วครั้งชั่วคราวเหมือนกรณีการใช้สารเคมีกลบกลิ่น กลิ่นไม่พึงประสงค์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ ส่วนใหญ่มาจากอินทรีย์วัตถุที่ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นมา มีทั้งมาจากธรรมชาติสร้างขึ้นมาและมนุษย์สร้างขึ้น แต่กลิ่นส่วนใหญ่จะมาจากกิจกรรมของมนุษย์สร้างขึ้น ถ้ากลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นๆมีที่มาจากสารอินทรีย์ก็กำจัดด้วยจุลินทรีย์บำบัดกลิ่น แต่ถ้ากลิ่นนั้นมาจากสารเคมีก็ให้ใช้สารเคมีกำจัดกลิ่นนั้นๆ ตามที่มาหรือสาเหตุของกลิ่น
เราคือผู้ผลิตและจำหน่ายจุลินทรีย์หอมคาซาม่า ( จุลินทรีย์หอม-kasama ) ชนิดเข้มข้นสูง ความหนาแน่นของปริมาณจุลินทรีย์สูง จุลินทรีย์หอมคาซาม่ามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา ( เพราะมีอาหารเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา)เหมาะสำหรับบำบัดน้ำเสีย เติมบ่อบำบัดน้ำเสีย ดับกลิ่นบ่อบำบัดน้ำเสียส่งกลิ่นเหม็น เป็นกลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็มชนิดไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ใช้ได้กับทุกๆระบบบำบัดน้ำเสีย จุลินทรีย์หอมคาซาม่าเป็นจุลินทรีย์ที่เราจัดทำขึ้นตามความต้องการของลูกค้าโดยตรง ซึ่งลูกค้าที่มีปัญหาห้องน้ำส่งกลิ่นเหม็น ส้วมส่งกลิ่นแรง ต้องการจุลินทรีย์ดับกลิ่นห้องน้ำที่มีกลิ่นหอม จุลินทรีย์หอมเป็นจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียจากธรรมชาติที่สังเคราะห์ขึ้นมาเพื่อวัตถุ ประสงค์ดับกลิ่นห้องน้ำ ห้องสุขาหรือห้องส้วม และบำบัดน้ำเสียโดยเฉพาะ โดยทั่วไปจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียจะมีกลิ่นฉุนออกเปรี้ยว แต่จุลินทรีย์หอมคาซาม่าของเราจะมีกลิ่นหอม เหมาะใช้งานดังต่อไปนี้.- - ดับกลิ่นห้องน้ำในบ้าน โรงแรม คอนโดมิเนี่ยม อพาร์ทเม้นท์ เกสเฮ้าส์ ออฟฟิศ ฯลฯ - ดับกลิ่นบ่อเกรอะเหม็น, เติมจุลินทรีย์ลงในบ่อเกรอะ, บำบัดน้ำเสีย , ดับกลิ่นบ่อบำบัดน้ำเสียส่งกลิ่นเหม็น - ทำความสะอาดห้องน้ำ ทำความสะอาดพื้นห้องน้ำที่มีกลิ่น - บำบัดน้ำเสียในโรงงาน บำบัดน้ำเสียในอาคารตึกสำนักงาน สถานประกอบธุรกิจทั่วๆไป - ดับกลิ่นสัตว์เลี้ยงหรือทำความสะอาดสัตว์เลี้ยง - ดับกลิ่นฟาร์มปศุสัตว์ ( กำจัดกลิ่นมูลสัตว์ทุกชนิด ) จุลินทรีย์หอมของเราจัดทำขึ้นตามความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการจุลินทรีย์ที่มีกลิ่นหอม การค้นหาเราใน Google.co.th โดยใช้ คีย์เวิร์ด หรือ คำ ดังต่อไปนี้ .- 1. จุลินทรีย์หอม-kasama 2. จุลินทรีย์หอมคาซาม่า ( สำหรับภาษาไทย ) 3. จุลินทรีย์รามอินทรา ( จุลินทรีย์ของเรามีที่ตั้งอยู่ถนนรามอินทรา ) 4. จุลินทรีย์บางกอก ( จุลินทรีย์ร้านบางกอกโปรดักส์ ) คีย์เวิร์ด 1 - 4 เป็นคีย์เวิร์ดตรงของเราในการเข้าสู่เว็บไซต์ของทางร้าน (Bangkokshow.com ) สิ่งที่ลูกค้าจะได้มากที่สุดจากที่นี่..ก็คือการแก้ปัญหาในเรื่องการบำบัดน้ำเสียและการแก้ไขปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียของท่าน เพราะเราจะให้บริการท่านฟรีๆ ปรึกษาขอคำแนะนำฟรีๆ การซื้อจุลินทรีย์หอมคาซาม่าไปบำบัดน้ำเสียจะเป็นเรื่องรอง ปัญหาทางด้านเทคนิคต่างๆค่อนข้างสำคัญต่อการบำบัดน้ำเสียมากๆ จะเห็นได้ว่า เราไม่ได้ขายแค่จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียเพียงเท่านั้นจบ แต่เรายังช่วยเหลือและช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าของเราอีกด้วย ( จุดสำคัญ ) นี่คือจุดเด่นและจุดแตกต่างของเราที่ไม่เหมือนใครในการจำหน่ายจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย มา RUN และ ทำการ REBOOT ระบบบำบัดน้ำเสียของท่านด้วย จุลินทรีย์หอมคาซาม่า จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียที่มีกลิ่นหอม ใช้บำบัดน้ำเสียได้ทุกๆระบบบำบัด เสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียให้กับระบบบำบัดน้ำเสียให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบบำบัดน้ำเสียที่ยังมีปัญหาทางด้านเทคนิคต่างๆ ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์กำหนด ระบบบำบัดล้มเหลวบ่อยๆ ระบบบำบัดน้ำเสียไม่ทำงาน เครื่องเติมอากาศเสียหรือกำลังวัตต์ต่ำ ฯลฯ จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ราคา ราคาจำหน่ายจุลินทรีย์หอมคาซาม่า ( จุลินทรีย์หอม-Kasama ) ราคาแกลลอนละ 1,200 บาท ขนาดบรรจุแกลลอน 20 ลิตร ( มีขนาดเดียว ) จัดส่งทั่วประเทศฟรีๆ
มีปัญหาบ่อเกรอะส่งกลิ่นเหม็น บ่อบำบัดน้ำเสียส่งกลิ่นเหม็นรบกวนใจ ห้องน้ำมีกลิ่นเหม็น ใช้จุลินทรีย์หอมคาซาม่า ( จุลินทรีย์หอม-kasama ) เปลี่ยนกลิ่นเหม็นให้เป็นกลิ่นหอมได้รวดเร็วทันใจ บำบัดน้ำเสียในสถานประกอบการทุกแห่ง บำบัดน้ำเสียในตึกอาคารสำนักงานทุกๆที่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้จุลินทรีย์หอมคาซาม่า เข้มข้นสูง ไม่เก่าเก็บ ปริมาณจุลินทรีย์มีความหนาแน่นมาก ย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียได้ทันที
จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย/การบำบัดน้ำเสียในคอนโดมิเนียมทุกๆแห่ง กดดูที่นี่.. จุลินทรีย์เติมบ่อบำบัดน้ำเสีย/จุลินทรีย์ใส่บ่อบำบัดน้ำเสีย คลิกดูที่นี่... ปัญหาบ่อเติมอากาศส่งกลิ่นเหม็นเกิดจากสาเหตุใด ? คลิกดูที่นี่.. เทคนิคการลดค่า BOD สูงในน้ำเสียทุกๆแห่ง คลิกดูที่นี่.. การบำบัดน้ำเสียและบำบัดกลิ่นในโรงงานไอศครีมทุกๆแห่ง คลิกที่นี่... การแก้ปัญหาน้ำเสียและกลิ่นในโรงงานปลาหมึกทุกๆแห่ง คลิกที่นี่.. การแก้ปัญหาน้ำเสียและกลิ่นในโรงงานขนมจีนทุกๆแห่ง คลิกที่นี่... การเช็คค่า BOD , pH , DO ของระบบบำบัดน้ำเสีย คลิกดูที่นี่... วิธีการลดค่า BOD , SS , TDS ในโรงงานปลากระป๋อง คลิกที่นี่.. จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย/จุลินทรีย์หอมบำบัดน้ำเสียทุกๆระบบ คลิกที่นี่..
จุลินทรีย์หอมคาซาม่ากับการดับกลิ่นบำบัดกลิ่น ดูหัวข้อที่สนใจ กดดูที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ จุลินทรีย์ดับกลิ่นส้วม/ดับกลิ่นส้วมเหม็น คลิกดูที่นี่.. จุลินทรีย์ดับกลิ่นห้องน้ำ คลิกดูที่นี่.. วิธีดับกลิ่นห้องน้ำเหม็น/วิธีแก้ห้องน้ำมีกลิ่น คลิกดูที่นี่... จุลินทรีย์ดับกลิ่นบ่อเกรอะเหม็น/ดับกลิ่นบ่อส้วมเหม็น คลิกที่นี่.. ปัญหากลิ่นในห้องน้ำมาจากอะไร ? คลิกดูที่นี่.. จุลินทรีย์ดับกลิ่น คลิกดูที่นี่... จุลินทรีย์หอมดับกลิ่น / จุลินทรีย์หอมบำบัดกลิ่น คลิกที่นี่.. จุลินทรีย์ดับกลิ่นคาวปลา ดับกลิ่นคาวเลือด คลิกที่นี่.. จุลินทรีย์ดับกลิ่นฟาร์มเลี้ยงหมู คลิกที่นี่... จุลินทรีย์ดับกลิ่นห้องน้ำในปั๊มน้ำมัน คลิกดูข้อมูลที่นี่.. จุลินทรีย์ดับกลิ่นเหม็นทุกๆชนิด คลิกดูที่นี่.. จุลินทรีย์บ่อเกรอะ/จุลินทรีย์ใส่บ่อเกรอะ คลิกดูที่นี่.. การใช้จุลินทรีย์หอมคาซาม่าในบ่อเกรอะ(บ่อส้วม) คลิกดูที่นี่... จุลินทรีย์ดับกลิ่นเหม็นทุกๆชนิด คลิกที่นี่..
สำหรับค่าพารามิเตอร์ต่างๆที่ควรรู้ในระบบบำบัดน้ำเสียหรือในบ่อบำบัดน้ำเสีย
- BOD ( บีโอดี ) ในน้ำเสีย คือ ปริมาณออกซิเจนที่จุลินทรีย์ใช้ในกระบวนการทางชีวเคมี มีหน่วยเป็นมิลลิกรัม/ลิตร ( mg/l ) - COD ( ซีโอดี ) ในน้ำเสีย คือ ปริมาณออกซิเจนที่ใช้ในกระบวนการทางเคมี มีหน่วยเป็นมิลลิกรัม/ลิตร ( mg/l ) COD (Chemical Oxygen Demand) คือ ปริมาณ O2ที่ใช้ในการออกซิไดซ์ในการสลายสารอินทรีย์ด้วยสารเคมีโดยใช้สารละลาย เช่น โพแทสเซียมไดโครเมต (K2Cr2O7) ในปริมาณมากเกินพอ ในสารละลายกรดซัลฟิวริกซึ่งสารอินทรีย์ในน้ำทั้งหมดทั้งที่จุลินทรีย์ย่อย สลายได้และย่อยสลายไม่ได้ก็จะถูกออกซิไดซ์ภายใต้ภาวะที่เป็นกรดและการให้ความร้อน โดยทั่วไปค่า COD จะมีค่ามากกว่า BOD เสมอ ดังนั้นค่า COD จึงเป็นตัวแปรที่สำคัญตัวหนึ่งที่แสดงถึงความสกปรกของน้ำเสีย - TS หรือปริมาณของแข็งทั้งหมด (Total Solids : TS ) ในน้ำเสีย มีหน่วยเป็น มิลลิกรัม/ลิตร ( mg/l ) - SS หรือปริมาณของแข็งแขวนลอย (Suspended Solid : SS ) ในน้ำเสีย มีหน่วยเป็นมิลลิกรัม/ลิตร ( mg/l ) - ค่า TKN หรือปริมาณไนโตรเจนในรูป TKN มีหน่วยเป็นมิลลิกรัม/ลิตร( mg/l ) - ค่า F ( FO4 ) ปริมาณฟอสเฟต มีหน่วยเป็นมิลลิกรัม/ลิตร ( mg/l ) - ค่า pH ความเป็นกรด-ด่าง (pH) สำหรับค่ามาตรฐานน้ำทิ้งบางตัวจากอาคารบางประเภทและบางขนาด ตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (2537)
- ค่าบีโอดี (BOD) ไม่เกิน 20 มิลลิกรัม/ลิตร - ค่า SS หรือปริมาณของแข็งแขวนลอย (Suspended Solid : SS ) ไม่เกิน 30 มิลลิกรัม/ลิตร - ค่า pH 5 - 9 - TDS ไม่เกิน 500 mg/l - FOG ไม่เกิน 20 mg/l ฯ ล ฯ
[ ระบบบำบัดน้ำเสีย และ ค่าพารามิเตอร์ต่างๆ คลิกที่นี่.. ]
[ ดูค่ามาตรฐานน้ำทิ้งจากอาคารสำนักงานชนิด( ขนาดต่างๆ )ต่างๆ คลิกดูที่นี่..]
[ ระบบบำบัดน้ำเสีย และ ค่าพารามิเตอร์ต่างๆ คลิกที่นี่.. ]
TKN (Total Kjeldahl Nitrogen) หมายถึงปริมาณรวมทั้งหมดของ ไนโตรเจนอนินทรีย์และแอมโมเนีย-ไนโตรเจนที่อยู่ในโปรตีนของพืชและสัตว์ TOC (Total Organic Carbon) คือค่าอินทรีย์คาร์บอนรวม เป็นคำศัพท์ที่ใช้อธิบายถึง สารอินทรีย์(ที่พื้นฐานมีคาร์บอน) ซึ่งปนเปื้อนอยู่ในน้าเสียนั้นๆ สารอินทรีย์ที่เจือปนอยู่ในน้ำนั้น สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของน้ำได้ น้ำที่มีสารอินทรีย์เจอปนมากจะส่งผลให้การละลายของออกซิเจนในน้ำนั้นน้อยลง ส่งผลต่อปริมาณของจุลินทรีย์ย่อยสลายโดยตรง ค่า BOD ของน้ำดีจะอยู่ที่ <= 6 mg/l จะส่งผลทำให้ค่า DO >= 6 ขึ้นไป ค่ากลางของ DO อยู่ที่ 5-8 mg/l หรือ 5-8 ppm. มาตรฐานน้ำทิ้ง ค่า BOD ( กลาง ) ประมาณ 20 mg/l ถ้าค่า BOD เกิน 100 mg/l ขึ้นไป น้ำก็จะเน่าเสียแล้ว ( สารอินทรีย์เจือปนในน้ำมีมาก ) การควบคุมค่าพารามิเตอร์ต่างๆในบ่อบำบัดน้ำเสีย ( Para Meter Control ) ทำไมต้องคอนโทรลค่าพารามิเตอร์ต่างๆ เหตุผลก็เพื่อต้องการทราบค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ทั้งก่อนบำบัด ( ในบ่อแรก ) และหลังการบำบัดแล้ว ( น้ำเสียที่ผ่านการบำบัดให้เป็นน้ำดี ) ซึ่งค่าพารามิเตอร์จะเป็นตัวชี้วัดคุณภาพน้ำที่ผ่านการบำบัดว่า บำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดีได้หรือไม่ รวมถึงจะบอกถึงประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียของระบบบำบัดน้ำเสียในหน่วยงานนั้นๆ น้ำที่มีสีใสๆไม่ใช่น้ำที่มีคุณภาพดีเสมอไป อาจมีสารอินทรีย์เจือปนอยู่มากก็ได้ ( เป็นน้ำเสีย ) ค่าพารามิเตอร์พื้นฐานที่ต้องคอนโทรลในระบบบำบัดน้ำเสียหรือบ่อบำบัดน้ำเสีย เช่น ค่า ph , BOD , COD , SS , TDS , FOG , TKN , S ,DO เป็นต้น ถ้าคอนโทรลค่าพารามิเตอร์พื้นฐานเหล่านี้ได้ตามกำหนดมาตรฐานน้ำทิ้งได้แล้ว ถือว่าระบบบำบัดน้ำเสียมีประสิทธิภาพดีมาก และต้องคอนโทรลได้อย่างต่อเนื่อง การวัดค่าพารามิเตอร์ของน้ำเสียในบ่อบำบัดประจำเดือน ( ในแต่ละครั้ง ) ให้เก็บตัวอย่างน้ำเสียในบ่อที่ 1 ( ก่อนบำบัด ) และ บ่อสุดท้าย ( ผ่านการบำบัดแล้ว ) มาวิเคราะห์ค่าพารามิเตอร์ต่างๆในห้องปฏิบัติการแล้วนำไปขึ้นเป็นรีพอร์ท ( รายงานผลการวิเคราะห์ ) ประจำเดือนในแต่ละเดือนต่อไป ( ส่งให้หน่วยงานราชการได้ ) สิ่งที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะน้ำเสียที่ไปจากอาคารสำนักงานและคอนโดมิเนี่ยมต่างๆทุกๆแห่งจะมีสารอินทรีย์และตะกอนปนเปื้อนในน้ำเสียค่อนข้างสูง ส่งผลให้ค่า BOD , TOC , SS , TDS สูงตามไปด้วย การลดสารอินทรีย์ ( ถ้าทำได้ ) จะส่งผลให้ค่า BOD และ TOC , SS , TDS ลดลงตามไปด้วย ถ้าตะกอนสารอินทรีย์มีขนาดใหญ่อาจใช้ตัวกรองของเสียและกรองตะกอนตะกรัน ( Filter ) กรองดักของเสียก่อนลงในบ่อแรก เพื่อลดค่า SS , TDS ไปในตัว ซึ่งมีส่วนช่วยลดค่า BOD , COD , TOC โดยเฉพาะการฟิลดเตอร์กรองแบบละเอียดก่อนน้ำเสียลงบ่อสุดท้าย ( ก่อนปล่อยน้ำทิ้งออกสู่สาธารณะ ) การเพิ่มตัวฟิลเตอร์ในแต่ละบ่อจะช่วยลดค่า BOD , TOC , SS , TDS ไปได้มากพอสมควร ตัวฟิลเตอร์ก่อนลงในบ่อแรกอาจจะหยาบพอประมาณ เพิ่มตัวกรองสัก 2-3 ชั้น ( กรองแบบหยาบ ) ส่วนลำดับต่อไปจนถึงบ่อสุดท้ายก็สามารถเพิ่มความละเอียดมากขึ้นตามความต้องการ เป็นวิธีการลดค่าพารามิเตอร์บางตัวแบบง่ายๆ แต่จะส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการบำบัดของระบบได้มากขึ้น ในส่วนของค่า pH สามารถปรับได้ง่ายไม่ยุ่งยากเหมือนกรณีค่า BOD , COD ตัวอย่างแบบคร่าวๆของการทำรายงานผลประจำเดือนบ่อบำบัดน้ำเสีย/ระบบบำบัดน้ำเสีย ผลการวิเคราะห์ค่าพารามิเตอร์น้ำเสียและน้ำทิ้งของบ่อบำบัดน้ำเสียนิติบุคคลอาคารชุด A ประจำเดือน ..... พ.ศ. 2563 ( ค่าพารามิเตอร์ของน้ำเสียแต่ละแห่งอาจแตกต่างกันออกไปสถานะของหน่วยงาน )
เพราะอะไรจึงต้องทำการบำบัดน้ำเสียทุกๆแห่งให้เป็นน้ำดีก่อนปล่อยทิ้งออกสู่สิ่งแวดล้อมสาธารณะต่อไป เหตุผลก็เพราะ น้ำ คือ ชีวิต ทุกๆชีวิต ทั้งพืชและสัตว์ขาดน้ำ คือ ตายสถานเดียวเท่านั้น น้ำเสียไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆปรารถนา แม้แต่พืชและสัตว์ก็ไม่มียกเว้น รักษาน้ำ เท่ากับรักษาโลกให้ดีขึ้น สิ่งแวดล้อมดีขึ้นน่าอยู่ขึ้น
เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสีย
[[ค่ามาตรฐานน้ำทิ้ง คลิกที่นี่..]]
(( กฎหมายการบำบัดน้ำเสีย คลิกดูที่นี่..))
|