     |
 |
| การใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย สิ่งที่ไม่ควรกระทำมากที่สุดในระบบบำบัดน้ำเสียในทุกๆระบบ คือ การปรับค่า pH โดยการใช้กรดหรือด่างที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง เช่น กรดซัลฟูริค โซดาไฟ เป็นต้น เพราะสารเหล่านี้เป็นอันตรายทำลายจุลินทรีย์ในบ่อบำบัดน้ำเสีย โดยเฉพาะในบ่อเติมอากาศ ส่งผลให้ปริมาณจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียลดลง และจะส่งผลต่อค่ามาตรฐานน้ำทิ้งโดยตรง ต้องหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อจุลินทรีย์ในระบบบำบัด กรณีที่เป็นสารเคมีจากไลน์ผลิตและเป็นสารเคมีอันตราย ให้ทำการเจือจาง( Dilute )ด้วยปูนขาวก่อน เพื่อลดความรุนแรงของสารเคมี ก่อนเข้าระบบบำบัด กำจัดไนโตรเจนหรือลดค่า TKN ในบ่อบำบัดน้ำเสียไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป จุลินทรีย์หอมคาซาม่าสามารถกำจัดไนโตรเจนได้แล้ว เพราะเราได้เพิ่มกลุ่มจุลินทรีย์ไนตริฟลายอิ้งรวมอยู่ในจุลินทรีย์หอมคาซาม่าเรียบร้อยแล้ว ตัวที่ลดค่า TKN ในน้ำเสียได้ก็คือ กลุ่มจุลินทรีย์ไนตริฟลายอิ้งเพียงเท่านั้น การใช้จุลินทรีย์สำหรับบำบัดน้ำเสียในทุกๆแห่ง จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียคือ ตัวจักรที่สำคัญมากที่สุดในการบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดี ทั้งจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียชนิดที่ใช้ออกซิเจนและจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียชนิดที่ไม่ใช้ออกซิเจน ล้วนมีความสำคัญต่อกระบวนการบำบัดน้ำเสียทั้งสิ้น จุลินทรีย์ที่นำมาใช้ในการบำบัดน้ำเสียทั่วๆไป สำหรับจุลินทรีย์ที่นำมาใช้ในการบำบัดน้ำเสียนั้น จะเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพในการย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสีย แบ่งออกเป็น 2 ชนิดดังนี้.- 1. กลุ่มจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย( ย่อยสลายของเสีย )ชนิดที่ใช้ออกซิเจนในการเจริญเติบโตและในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสีย ซึ่งออกซิเจนจะมีความสำคัญอย่างมากเท่าๆกับอาหารของจุลินทรีย์ ทั้งอาหารและออกซิเจนจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้อย่างเด็ดขาด สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยงจุลินทรีย์ ส่วนใหญ่จะมีเพียงพอถึงมากพอ แต่ที่มีปัญหาบ่อยๆก็คือ ออกซิเจนของจุลินทรีย์ไม่ค่อยเพียงพอ ทั้งการดำรงชีพและการนำไปใช้ในการย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสีย ล้วนต้องดึงออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำมาใช้ทั้งนั้น ดังนั้น ในน้ำเสียนั้นๆ จะต้องมีปริมาณออกซิเจนมากเพียงพอต่อการนำไปใช้งานของจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียชนิดที่ใช้ออกซิเจนกลุ่มนี้ ทำไมระบบบำบัดน้ำเสียแทบจะทุกๆแห่งต้องเติมอากาศออกซิเจนลงไปในน้ำเสีย? เพราะต้องการดึงออกซิเจนลงไปละลายในน้ำเสีย ให้น้ำเสียมีปริมาณออกซิเจนมากพอ ที่จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียชนิดที่ใช้ออกซิเจนจะนำไปใช้งานย่อยสลายของเสียและดำรงชีพนั่นเอง นี่คือคำตอบของคำถาม จุลินทรีย์จะทำการย่อยสลายของเสียต่างๆที่ละลายและเจือปนอยู่ในน้ำเสีย น้ำเสียยิ่งมาก ก็ต้องใช้จุลินทรีย์ในการบำบัดมากตามไปด้วย ซึ่งต้องสมดุลกันระหว่างน้ำเสียกับจุลินทรีย์ย่อยสลาย เมื่อใดที่ทั้งสองสิ่งนี้ไม่สมดุลกันเกิดขึ้น เมื่อนั้นปัญหาติดตามมาอย่างแน่นอน นั่นก็คือ ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์กำหนด 2. กลุ่มจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย( ย่อยสลายของเสีย )ชนิดที่ไม่ใช้ออกซิเจนในการเจริญเติบโตและในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสีย จุลินทรีย์กลุ่มนี้จะไม่ใช้ออกซิเจนในการย่อยสลายของเสียเหมือนกลุ่มแรก ดังนั้น ในน้ำเสียไม่ว่าจะมีออกซิเจนมากหรือน้อยหรือไม่มีออกซิเจนเลย( DO = 0 )จุลินทรีย์กลุ่มนี้ก็ยังคงดำรงชีพอยู่ได้และทำงานย่อยสลายได้ตามปกติ( ไม่เหมือนกลุ่มแรกที่ขาดออกซิเจนไม่ได้ )แต่ปัญหาก็คือ ในสิ่งแวดล้อมจะมีจุลินทรีย์กลุ่มนี้มีในปริมาณน้อย อยู่แบบกระจัดกระจายทั่วไปไม่ค่อยจะรวมกลุ่มกัน การทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียของจุลินทรีย์กลุ่มนี้ได้ผลลัพธ์เหมือนกันกับจุลินทรีย์กลุ่มแรก( กลุ่มที่ใช้ออกซิเจน )คือ ได้น้ำ + พลังงาน + ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตามสมการจำลองด้านล่าง
บรรดาของเสียทุกๆสิ่งทุกๆอย่างบนโลกใบนี้ทั้งหมด จะถูกย่อยสลายหรือออกซิไดซ์โดยจุลินทรีย์ย่อยสลายทั้งสิ้น(ในขั้นตอนสุดท้าย) ของเสียต่างๆจะถูกแปรสภาพเปลี่ยนไปเป็น น้ำ, พลังงงาน และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตามสมการด้านบน ซึ่งเป็นสัจธรรมที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในธรรมชาติ เช่นเดียวกันกับการบำบัดน้ำเสียทุกๆแห่งทุกๆระบบ ล้วนพึ่งพาและอาศัยจุลินทรีย์ย่อยสลายทั้งสิ้น กรณีที่มีการบำบัดน้ำเสียด้วยสารเคมี ขั้นตอนสุดท้ายจริงๆก็หนีไม่พ้นชีวบำบัดหรือการบำบัดด้วยจุลินทรีย์อยู่ดี ดังนั้น การบำบัดน้ำเสียทุกๆแห่งและทุกๆระบบบำบัดจึงต้องการดึงจุลินทรีย์มาใช้ในการย่อยสลายของเสีย เพราะจุลินทรีย์ย่อยสลายคือ หัวใจหลักของการบำบัดน้ำเสียนั่นเอง ร้านบางกอกโปรดักส์ ผู้ผลิตและจำหน่ายจุลินทรีย์หอมคาซาม่าโดยตรง( ไม่ใช่ตัวแทน )เราผลิตและจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน มีลูกค้ากระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่สั่งซื้อประจำ( มากกว่า 80% )ลูกค้าบางท่านซื้อมาตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบันก็มีหลายท่าน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการดับกลิ่น โดยเฉพาะดับกลิ่นห้องน้ำเหม็นจะมาอันดับหนึ่ง รองลงมาจึงเป็นการบำบัดน้ำเสีย โดยเฉพาะการบำบัดน้ำเสียในคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงานจะมากที่สุด รองลงมาจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่ใช้จุลินทรีย์ของเรา เราไม่ได้ขายเพียงจุลินทรีย์เท่านั้น แต่เราให้ความรู้ความเข้าใจ ให้คำแนะนำและคำปรึกษากับลูกค้าของเราทุกๆท่าน ช่วยลูกค้าแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นของลูกค้าแต่ละท่าน เป็นบริการเสริมที่เราตั้งใจให้ฟรีๆกับลูกค้าที่ซื้อจุลินทรีย์จากเรา ไม่ต้องให้ลูกค้าจ้างที่ปรึกษาให้สิ้นเปลืองงบประมาณเพิ่ม ซึ่งเป็นการช่วยลดภาระรายจ่ายที่ปรึกษาของลูกค้าโดยตรง โดยเฉพาะการบำบัดน้ำเสีย ต้องใช้ทั้งความรู้และความเชี่ยวชาญชำนาญเป็นพิเศษ ต้องวิเคราะห์และแก้ปัญหาทั้งทางเทคนิคและด้านอื่นๆ ซึ่งในบางกรณีมีความสลับซับซ้อนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ BOD , COD , SS , TDS , FOG จะต้องแก้ไขอย่างไร? เป็นต้น ซึ่งต้องนำโจทย์ลูกค้าแต่ละรายนำไปวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆรอบด้าน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ใครก็สามารถทำได้ จะต้องมีความรู้และความเข้าใจกระบวนการบำบัดน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียเป็นอย่างดีจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ร้านฯของเราปฏิบัติเช่นนี้กับลูกค้าของเราทุกๆท่านที่ต้องการคำแนะนำและคำปรึกษา เราจะไม่มีการยัดเยียดให้ลูกค้า แต่ให้ลูกค้าแจ้งความต้องการคำแนะนำและคำปรึกษาได้โดยตรงตามความต้องการของเจ้าภาพ เรื่องใด? แก้ปัญหาอะไร? เป็นต้น จุลินทรีย์หอมคาซาม่า : จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ราคา ราคาจำหน่าย แกลลอนละ 1,200 บาท( ราคานี้เป็นราคาตั้งแต่ปี 2544 - ปัจจุบัน ) ขนาดบรรจุ แกลลอน 20 ลิตร ( บรรจุจริง 21.50 ลิตร ) จัดส่งฟรีทั่วประเทศ( ในบางพื้นที่ขนส่งอาจเข้าไม่ถึง จะงดจำหน่าย ) ได้รับสินค้าภายใน 2-4 วันทำการขนส่ง( ขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้-ไกล )
จุลินทรีย์หอมคาซาม่ากับการบำบัดน้ำเสีย อ่านหัวข้อที่น่าสนใจ กดดูที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้
|
.gif){kind=icon}
Copyright © 2010 All Rights Reserved.
