การบำบัดน้ำเสียในห้างสรรพสินค้า
สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการบำบัดน้ำเสียและในระบบบำบัดน้ำเสียทุกๆระบบคือ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ( จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ) เป็นตัวจักรที่สำคัญมากที่สุดในการบำบัดน้ำเสียจากทุกๆแหล่งและทุกๆระบบบำบัด การบำบัดน้ำเสียในห้างสรรพสินค้า และ ระบบบำบัดน้ำเสียในห้างสรรพสินค้า น้ำเสียในห้างสรรพสินค้ามีปริมาณค่อนข้างมาก เพราะมีการใช้น้ำมากในแต่ละวัน ทั้งน้ำเสียที่มาจากห้องน้ำ มาจากส้วม มาจากห้องอาหาร มาจากครัวทำอาหาร มาจากการซักล้างต่างๆ ฯลฯ แหล่งหรือจุดที่มาของน้ำเสียทั้งหมดในห้างสรรพสินค้ามาจากหลายๆจุดด้วยกัน ในการเลือกระบบบำบัดน้ำเสียแบบใดนั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของห้างสรรพสินค้านั้นๆว่ามีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่หรือขนาดกลางๆ ระบบบำบัดน้ำเสียในห้างสรรพสินค้าที่เหมาะสมก็มีเพียง 2 ระบบ คือ 1. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ AS ( Activated Sludge ) ซึ่งมีการแบ่งแยกย่อยไปอีก 4 แบบด้วยกัน ส่วนจะเลือกใช้แบบใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ทั้งสถานที่ พื้นที่และงบประมาณลงทุน 2. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบ RBC ระบบบำบัดน้ำเสียแบบแผ่นจานหมุนชีวภาพ ( Rotating Biological Contactor : RBC ) ทั้งสองระบบด้านบนเหมาะกับการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียสำหรับห้างสรรพสินค้า ส่วนจะเลือกแบบใดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก ถ้าเลือกแบบมีประสิทธิภาพสูงก็อาจใช้งบประมาณสูงตามไปด้วย อย่างที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า น้ำเสียในห้างสรรพสินค้ามาจากหลายๆจุดด้วยกัน ผู้ออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียต้องมีข้อมูลแหล่งน้ำเสียในแต่ละจุดแล้วนำมาประมวลผล เพื่อทำการแยกส่วนบำบัด จุดใดรวมกันได้ จุดใดรวมกันไม่ได้ต้องแยกบำบัด ซึ่งการออกแบบระบบที่มีประสิทธิภาพก็จะส่งผลดีต่อระบบบำบัดให้มีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดีได้ ระบบบำบัดน้ำเสียในห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ก็ยังเป็นระบบแบบเติมอากาศ AS เนื่องจากห้างสรรพสินค้าน้ำเสียค่อนข้างมีปริมาณมาก โดยเฉพาะน้ำเสียที่ไปจากห้องน้ำที่มีกลิ่นเหม็นจากสิ่งปฏิกูลต่างๆ การบำบัดน้ำเสียจากส้วมกับน้ำเสียจากส่วนกลางต้องแยกส่วนกันบำบัด น้ำเสียจากส้วมต้องได้รับการบำบัดในเบื้องต้นก่อน การบำบัดน้ำเสียที่มาจากส้วมหรือบ่อเกรอะในเบื้องต้น ต้องทำการกรองกากตะกอน ตะกรันต่างๆในบ่อเกรอะออกให้หมด โดยการนำไปกำจัดทิ้ง เพื่อลดค่า SS , TDS และ BOD ในเบื้องต้น หลังจากนั้นใช้จุลินทรีย์กำจัดกลิ่นหรือดับกลิ่นทำการบำบัดกลิ่นเน่าเหม็นสิ่งปฏิกูลในบ่อเกรอะ ให้เหลือกลิ่นน้อยที่สุดหรือไม่มีกลิ่นเลย ก่อนที่จะส่งในน้ำเสียในบ่อเกรอะไปรวมบำบัดกับระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง ระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางแบบเติมอากาศ AS ( ภาพบน ) จะเป็นแบบการบำบัดซ้ำจากบ่อเติมอากาศที่ 1 - 3 ซึ่งจะทำให้การย่อยสลายมีประสิทธิภาพมากขึ้น การย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสียจะเกิดขึ้นในบ่อเติมอากาศที่ 1 เมื่อบ่อนี้ย่อยสลายแล้วจะส่งต่อไปย่อยสลายในบ่อเติมอากาศที่ 2 และบ่อที่ 3 อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้กากตะกอนส่วนเกิน ( Excess Sludge ) เหลือน้อยลง ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งผ่านเกณฑ์ได้ง่ายขึ้น แต่ข้อเสียก็คือ ค่อนข้างใช้งบประมาณสูงในการก่อสร้างระบบและค่าไฟฟ้าในการเดินระบบบำบัด แต่ถ้าห้างสรรพสินค้าใดทำได้เช่นนี้ก็ถือว่าดีมีประโยชน์ต่อห้างสรรพสินค้าเองและส่วนรวม ช่วยลดมลภาวะและมลพิษจากน้ำเน่าเสียที่ออกไปจากห้างสรรพสินค้า การบำบัดน้ำเสียในห้างสรรพสินค้าก็เหมือนกรณีการบำบัดน้ำเสียทั่วๆไป เพียงแต่ต้องควบคุมให้อยู่ การบริหารจัดการระบบ การดูแลและบำรุงรักษาต้องมีประสิทธิภาพเพียงพอ มีห้างสรรพสินค้าหลายๆแห่งค่ามาตรฐานน้ำทิ้งบางค่าไม่ผ่านเกณฑ์ ฝ่ายดูแลและบำรุงรักษาระบบบำบัดต้องทำการแก้ไขทันที เพื่อไม่ให้น้ำเสียไปสร้างมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อมส่วนรวม ในการบำบัดน้ำเสียและการย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสียต้องพึ่งพาและอาศัยจุลินทรีย์ย่อยสลายเป็นหลัก ซึ่งยังไม่มีสิ่งใดมาทดแทนจุลินทรีย์ย่อยสลายได้ในปัจจุบัน จุลินทรีย์เกี่ยวข้องอะไรกับการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสีย ? บรรดาของเสียทั้งหลายทั้งมวลบนโลกใบนี้ ซึ่งรวมทั้งน้ำเสียและของเสียต่างๆที่เจือปนอยู่ในน้ำเสียจะถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ย่อยสลายทั้งสิ้น ( กลุ่มที่มีประโยชน์กลุ่มที่ 1 ) ซึ่งกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายมีทั้งชนิดที่ใช้ออกซิเจนและชนิดไม่ใช้ออกซิเจนในการดำรงชีพและทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสีย ในน้ำเสียจะมีสิ่งปนเปื้อนและสิ่งสกปรกที่เป็นสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์แร่ธาตุต่างๆเจือปนอยู่ในน้ำเสีย สิ่งสกปรกที่เป็นมลสารทั้งหลายเหล่านี้จะถูกย่อยสลายให้มีขนาดโมเลกุลเล็กลงเรื่อยๆจนสุดท้ายของวัฎฎจักรการย่อยสลายสสารเหล่านี้จะแปรเปลี่ยนรูปไปเป็น พลังงาน + น้ำ + CO2 ตามภาพจำลองสมการด้านล่าง เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและมนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อจัดการบำบัดน้ำเสียที่เกิดขึ้น จึงต้องพึ่งพาและอาศัยจุลินทรีย์ย่อยสลายกลุ่มที่มีประโยชน์นี้ ถ้าปราศจากจุลินทรีย์ย่อยสลาย ของเสียต่างๆคงล้นโลกไปนานแล้ว ดังนั้น ในการบำบัดน้ำเสียทุกๆแห่งและทุกๆระบบจะขาดซึ่งจุลินทรีย์ย่อยสลายไม่ได้โดยเด็ดขาด
ภาพบนเป็นภาพจำลองของปฏิกิริยาการย่อยสลายของเสียของกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก ซึ่งจะแปรเปลี่ยนสภาพของเสียที่เจือปนอยู่ในน้ำเสียทั้งสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ไปเป็น น้ำ + พลังงาน + CO2 ( ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด ์ ) ของเสียต่างๆในโลกนี้ไม่ล้นโลกก็มาจากฝีมือของกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียนี้เอง จุลินทรีย์รักษ์โลกก็คือจุลินทรีย์ย่อยสลายกลุ่มนี้นี่เอง ช่วยให้ขยะไม่ล้นโลก ช่วยให้น้ำเสียไม่ล้นโลก ช่วยลดมลภาวะและมลพิษในสิ่งแวดล้อม รักษาสิ่งแวดล้อม จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียคืออะไร ? จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย คือ กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียต่างๆที่เจือปนอยู่ในน้ำเสีย มีทั้งชนิดใช้ออกซิเจนและชนิดไม่ใช้ออกซิเจน ( Aerobic Bacteria & Anaerobic Bacteria ) จุลินทรีย์ที่จะแปรสภาพย่อยสลายของเสียทั้งหลาย ต้องเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายเท่านั้น ( ทั้งกลุ่มที่ใช้ออกซิเจนและกลุ่มที่ไม่ใช้ออกซิเจน ) ซึ่งมีอยู่ในธรรมชาติรวมกันประมาณ 10% จุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่บำบัดน้ำเสียหรือย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสีย ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก จะเห็นได้ว่าระบบบำบัดน้ำเสียส่วนใหญ่ ( ทุกๆระบบ ) ออกแบบเพื่อรองรับการดึงออกซิเจนเข้าไปเติมในระบบบำบัด ( เติมในบ่อบำบัด ) เพื่อต้องการให้กลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลักมารวมกลุ่มเจริญเติบโตขยายเซลล์ย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสียนั้นๆ ปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายยิ่งมาก ปฏิกิริยาการย่อยสลายของเสียในน้ำเสียก็เกิดขึ้นมาก กากตะกอนของเสียต่างๆในน้ำเสียก็จะเหลือน้อยลงหรือลดลงตามศักยภาพการย่อยสลายของจุลินทรีย์ แต่ในความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถคอนโทรลหรือควบคุมจำนวนหรือปริมาณของจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจนให้ได้ตามที่ต้องการในบ่อบำบัดน้ำเสีย ปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายในแต่ละช่วงเวลา อาจจะมีปริมาณมากเพียงพอกับการย่อยสลายของเสีย หรืออาจจะมีน้อยกว่าปริมาณของเสีย แต่ส่วนใหญ่ของระบบบำบัดน้ำเสียจะมีปัญหาปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียมีปริมาณน้อยกว่าของเสียและน้ำเสีย จึงส่งผลให้ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์กำหนดบ่อยๆ ซึ่งระบบบำบัดน้ำเสียส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะเป็นระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ AS ( Activated Sludge ) ระบบบำบัดชนิดนี้มีจุดอ่อนหลายจุดด้วยกัน ถ้าการบริหารจัดการดูแลและบำรุงรักษาไม่ดีพอระบบล้มเหลวได้ง่ายๆ ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งบางค่าหรือหลายๆค่าอาจไม่ผ่านเกณฑ์กำหนด จะเห็นได้ว่าจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจนจะควบคุมค่อนข้างยาก ( ควบคุมไม่ได้ตามที่ต้องการ ) ถ้าออกแบบสิ่งแวดล้อมของระบบบำบัดไม่เหมาะสมกับการดำรงชีพและการเจริญเติบโตของมันก็จะมีปัญหาระบบบำบัดมีปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายน้อย ย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสียไม่ทัน ทำให้ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์เป็นประจำ นี่คือเรื่องราวของจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสีย การสร้างจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย อย่างที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า กลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลักค่อนข้างควบคุมได้ยากและเพิ่มปริมาณไม่ได้ตามที่เราต้องการ มันจะอยู่แบบกระจัดกระจายตามดิน น้ำ อากาศ ซึ่งควบคุมได้ยาก ดังนั้น จึงมีการคิดค้นสังเคราะห์กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในด้านการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียที่สามารถควบคุมและเพิ่มปริมาณความหนาแน่นของจุลินทรีย์ได้ตามที่เราต้องการ สามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ในห้องปฏิบัติการ นั่นก็คือ กลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งจุลินทรีย์กลุ่มนี้สามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมในสภาวะไร้ออกซิเจนหรือมีออกซิเจนก็ได้ ทำหน้าที่ในการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียได้เหมือนกันกับกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจน จึงมีการนำมาทดแทนและเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียในระบบบำบัดน้ำเสียทั่วๆไปทีมีปัญหาในการบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดี ( ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์ ) จึงหมดปัญหาในการควบคุมปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายไม่ได้ เราสามารถสร้างและสังเคราะห์จุลินทรีย์ย่อยสลายขึ้นมาทดแทนกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ความสำคัญของจุลินทรีย์ในกระบวนการบำบัดน้ำเสียในทุกๆระะบบบำบัดน้ำเสีย ในการบำบัดน้ำเสียทุกๆแห่งและทุกๆระบบ ไม่ว่าน้ำเสียที่มีอยู่ตามธรรมชาติหรือมนุษย์สร้างขึ้นมา และไม่ว่าระบบบำบัดน้ำเสียนั้นๆจะลงทุนมากหรือลงทุนน้อยเพียงใดก็ตาม ทุกๆระบบที่สร้างขึ้นล้วนต้องใช้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียทั้งสิ้นในการบำบัดและย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสีย ถึงแม้ในบางครั้งอาจใช้สารเคมีเข้าร่วมบำบัดด้วยในบางกรณี แต่กระบวนการย่อยสลายขั้นสุดท้ายก็มาจบลงที่จุลินทรีย์ย่อยสลายเหมือนเดิม น้ำเสียที่เกิดขึ้นในทุกๆแห่งล้วนต้องอาศัยจุลินทรีย์ในการย่อยสลายของเสียในน้ำเสียนั้นๆ รวมถึงการบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดีก็ต้องอาศัยจุลินทรีย์ทั้งสิ้น ซึ่งเท่ากับจุลินทรีย์ย่อยสลายเหล่านี้มีคุณประโยชน์ต่อโลกใบนี้ ช่วยพิทักษ์และรักษาไม่ให้ของเสียและน้ำเสียล้นโลกมาจนถึงปัจจุบันนี้ ลดมลพิษและมลภาวะให้กับโลก รักษาสิ่งแวดล้อม กลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสียทั่วๆไปมีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่พอจำแนกออกเป็น 2 กลุ่มดังต่อไปนี้ 1. จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียชนิดใช้อากาศออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายและการดำรงชีพ ( Aerobic Bacteria ) 2. จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียชนิดไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายและการดำรงชีพ ( Anaerobic Bacteria ) จะเห็นได้ว่าจุลินทรีย์ทั้งสองกลุ่มนี้จะทำหน้าที่บางอย่างคล้ายๆกัน นั่นก็คือ การทำหน้าที่ย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสียได้ดีเหมือนกัน ซึ่งสามารถนำมาทดแทนกันได้ เพื่อให้การย่อยสลายของเสียในน้ำเสียเป็นไปอย่างต่อเนื่องในบ่อบำบัดน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสีย ประเภทของระบบบำบัดน้ำเสียทางชีวภาพ 1. การบำบัดน้ำเสียแบบใช้อากาศออกซิเจน (Aerobic wastewater treatment) เป็นกระบวนการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียสำหรับกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้อากาศออกซิเจนเป็นหลัก ซึ่งจุลินทรีย์กลุ่มนี้ถ้าไม่มีออกซิเจน ( ละลายอยู่ในน้ำเสียนั้นๆ ) ก็ไม่สามารถทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและการดำรงชีพในน้ำเสียนั้นๆได้ น้ำก็จะเน่าเสียวิกฤตมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถสังเกตได้ทางกายภาพและเช็คค่า BOD 2. การบำบัดน้ำเสียแบบไม่ใช้อากาศออกซิเจน (Anaerobic wastewater treatment) เป็นกระบวนการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียสำหรับกลุ่มจุลินทรีย์ที่ไม่ใช้อากาศออกซิเจนในการดำรงชีพและในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียต่างๆ ค่าออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียนั้นๆ ( ค่า DO ) ไม่มีความจำเป็นสำหรับจุลินทรีย์กลุ่มนี้ (ไม่มีการดึงออกซิเนในน้ำเสียไปใช้ ) ดังนั้น ค่าออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียมีปริมาณเท่าใดก็ยังคงมีปริมาณไม่ลดลง ในการบำบัดน้ำเสียจากทุกๆแหล่ง จากระบบบำบัดน้ำเสียทุกๆระบบจะเกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียทั้งสองกลุ่มนี้เป็นหลัก ถ้าขาดหรือปราศจากจุลินทรีย์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ( ในทั้งสองกลุ่มนี้ ) แล้ว น้ำเสียทั้งหมดก็จะไม่ได้รับการบำบัดให้เป็นน้ำดี น้ำเสียและของเสียต่างๆคงล้นโลกใบนี้ไปนานแล้ว นี้คือ กระบวนการต่างๆในการบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดี ขั้นตอนการบำบัดน้ำเสียด้วยการใช้จุลินทรีย์แบบคร่าวๆ ( ชนิดใช้ออกซิเจนเป็นหลัก ) จุลินทรีย์หอมคาซาม่า ( จุลินทรีย์หอม Kasama ) เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย ย่อยสลายของเสียต่างๆและการกำจัดกลิ่นหรือดับกลิ่น เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายในน้ำเสีย ( Anaerobic Bacteria ) ไม่ว่าในน้ำเสียนั้นๆจะมีหรือไม่มีออกซิเจนก็ตาม จุลินทรีย์หอมคาซาม่าก็สามารถทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียได้ทันที ซึ่งจะแตกต่างไปจากกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก ( Aerobic Bacteria ) ซึ่งจะขาดออกซิเจนไม่ได้โดยเด็ดขาด เหตุผลที่ต้องเติมอากาศลงในบ่อบำบัดน้ำเสียก็เพื่อการดำรงชีพและการเจริญเติบโตขยายเซลล์ของกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนนี่เอง จุลินทรีย์หอมคาซาม่าสามารถทำงานย่อยสลายของเสียได้ทั้งในสภาวะไร้อากาศและมีอากาศ และสามารถทำงานแบบร่วมกัน ( ย่อยสลายของเสีย ) กับกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนได้ดี และมีคุณสมบัติพิเศษอีกประการหนึ่ง นั่นก็คือ การกำจัดกลิ่นหรือดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะกลิ่นที่เกิดจากสารอินทรีย์ทั้งหลาย ( ทั้งพืชและสัตว์ ) ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้จะไม่มีในกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก จุลินทรีย์หอมคาซาม่าช่วยทั้งเพิ่มและเสริมประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียการย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสียได้มากขึ้นและเร็วขึ้น ส่งผลให้การย่อยสลายของเสียในน้ำเสียมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย สามารถใช้กับระบบบำบัดน้ำเสียได้ทุกๆระบบในประเทศไทย เสริมจุดด้อยของระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศที่มีปัญหาปริมาณจุลินรีย์ย่อยสลายมีน้อย การเติมอากาศได้ไม่ทั่วถึงทั้งบ่อบำบัด เครื่องเติมอากาศเสียหรือไม่มีเครื่องเติมอากาศเลย จุลินทรีย์หอมคาซาม่าเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียในจุดใด ? เนื่องจากจุลินทรีย์หอมคาซาม่ามีคุณสมบัติในการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียเหมือนกับกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก ระบบบำบัดน้ำเสียทุกๆระบบออกแบบมาเพื่อต้องการดึงกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายเข้าระบบให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสียในบ่อบำบัดที่สร้างขึ้นมา ระบบบำบัดน้ำเสียในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ AS ( มากกว่า 90% ) ระบบบำบัดแบบเติมอากาศจะดึงเอาจุลินทรีย์ย่อยสลายในธรรมชาติมาใช้งานย่อยสลายของเสียต่างๆ แต่ไม่สามารถกำหนดหรือควบคุมปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายให้มีมากเพียงพอกับปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นจริง จึงส่งผลให้ของเสียต่างๆบางส่วนในน้ำเสียนั้นๆถูกย่อยสลายได้ไม่หมด ยังคงมีของเสียส่วนหนึ่งตกค้างในระบบบำบัดและผ่านไปยังบ่อพักน้ำทิ้งเพื่อเตรียมปล่อยทิ้งออกสู่สิ่งแวดล้อม ทำให้ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์อยู่บ่อยๆและเป็นประจำ จะด้วยข้อจำกัดของระบบบำบัดหรือปัญหาอื่นๆที่ทำให้ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์ จุลินทรีย์หอมคาซาม่าจะมาเพิ่มประสิทธิภาพกำลังการย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสีย ( ช่วยเพิ่มการย่อยสลายของเสีย ) ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยสลายของเสียในน้ำเสียให้เพิ่มขึ้นหรือมากขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง เป็นการบำบัดน้ำเสียด้วยจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนกับจุลินทรีย์ที่ไม่ใช้ออกซิเจน ( จุลินทรีย์หอมคาซาม่า ) ถือว่าเป็นการบำบัดซ้ำหรือการย่อยสลายซ้ำ ( Double Treatment ) ส่งผลให้ของเสียต่างๆในน้ำเสียถูกย่อยสลายได้มากขึ้น เป็นปฏิกิริยาบำบัด 2 ชั้น หรือ 2 ขั้นตอนตามภาพจำลองด้านล่าง ซึ่งจะส่งผลให้ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งผ่านเกณฑ์ได้ง่ายขึ้น จุลินทรีย์หอมคาซาม่าสามารถเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์มากหรือน้อยได้ตามความต้องการของผู้ใช้ กรณีที่ของเสียหรือน้ำเสียมีปริมาณมากก็สามารถเติมมากได้ตามความต้องการ เพื่อให้สมดุลกับปริมาณน้ำเสียและของเสียที่เกิดขึ้นจริง การบำบัดน้ำเสียก็จะสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ภาพบนเป็นภาพจำลองกระบวนการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียด้วยจุลินทรีย์ย่อยสลาย 2 กลุ่ม คือ กลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก ( บ่อที่ 2 ) และ กลุ่มจุลินทรีย์หอมคาซาม่า ( ไม่ใช้ออกซิเจนบ่อที่ 1 ) จะเห็นได้ว่าปฏิกิริยาการย่อยสลายของเสียจะเกิดขึ้น 2 ครั้งหรือ 2 จุด ซึ่งระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศทั่วๆไป ปฏิกิริยาการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในบ่อเติมอากาศเพียงบ่อเดียวเท่านั้น ( นอกจากมีการเสริมบ่อเติมอากาศเพิ่มขึ้น ) ภาพบนการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียในน้ำเสียจะเกิดขึ้นตั้งแต่บ่อแรก ( เติมจุลินทรีย์หอมคาซาม่าลงในบ่อแรก ) ก่อนที่จะส่งไปย่อยสลายต่ออีกครั้งในบ่อที่ 2 ( บ่อเติมอากาศ ) ซึ่งมีกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลักรอย่อยสลายของเสียที่เหลือในน้ำเสียที่ส่งมาจากบ่อแรก ส่งผลให้เกิดการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียซ้ำ ( Double Treatment ) ทำให้ประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสียทำได้ดีมากขึ้น ของเสียที่เป็นกากตะกอนส่วนเกินในบ่อสุดท้ายเหลือน้อย ( Excess Sludge ) นำไปกำจัดทิ้งหรืออาจนำกลับไปบำบัดซ้ำอีกครั้งหรือหลายๆครั้งได้ ซึ่งที่สุดของการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียของกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายจะได้ผลผลิตตามสมการจำลองด้านล่าง
เราคือ ผู้ผลิตและจำหน่ายจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียโดยตรง ไม่ผ่านตัวแทน ราคาจุลินทรีย์ที่เราจำหน่ายเป็นราคาผู้ผลิต จุลินทรีย์ของเราเป็นชนิดเข้มข้นสูง ไม่เก่าเก็บ ประการสำคัญคือมีกลิ่นหอมย่อยสลายของเสียได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับใช้บำบัดน้ำเสียที่เกิดจากสารอินทรีย์ เป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ใช้ออกซิเจนในการย่อยสลายของเสียหรือน้ำเสีย ไม่ดึงออกซิเจนในน้ำมาใช้ในการย่อยสลายของเสีย จึงทำให้น้ำมีออกซิเจนอย่างเพียงพอ ( กรณีที่ระบบมีการเติมอากาศออกซิเจนอยู่แล้ว ) ใช้ในการบำบัดน้ำเสียได้ประโยชน์อย่างน้อย 2 อย่างขึ้นไปคือ การบำบัดน้ำเสีย ย่อยสลายของเสียในน้ำเสีย และการกำจัดกลิ่นเน่าเหม็นของน้ำเสีย จุลินทรีย์หอมคาซาม่าประกอบไปด้วยกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หลายกลุ่มและหลากหลายสายพันธุ์ การสังเคราะห์จุลินทรีย์หอมคาซาม่าเป็นการรวมกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพมารวมอยู่ในที่เดียวกัน มีจุลินทรีย์รวมอยู่ 5 แฟมิลี่ 10 จีนัส 80 สปีชีส์ เพื่อนำไปใช้งานแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มคือ ผลิตจากหัวเชื้อของจุลินทรีย์ต้นฉบับโดยตรง ไม่มีการผลิตหมักจากพืชผักใดๆ การบำบัดน้ำเสียไม่ควรเอาน้ำหมักชีวภาพ ซึ่งหมักจากพืชผักชนิดต่างๆ นำไปบำบัดน้ำเสีย เพราะจะทำให้ค่า BOD, COD, SS สูง น้ำจะยิ่งเสียมากขึ้นกว่าเดิม น้ำหมักชีวภาพจะมีปริมาณความหนาแน่นของจุลินทรีย์ที่น้อยกว่า ซึ่งเหมาะสำหรับนำไปใช้เป็นปุ๋ยบำรุงพืชและบำรุงดินในการเกษตรกรรม จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ราคา จุลินทรีย์หอมบำบัดน้ำเสีย ราคา จุลินทรีย์หอมดับกลิ่น ราคา ขนาดบรรจุจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียของเรา มีขนาดบรรจุขนาดเดียว คือ แกลลอนขนาด 20 ลิตร ราคาจำหน่ายจุลินทรีย์หอมคาซาม่า แกลลอนละ 1,200 บาท จัดส่งทั่วประเทศฟรีๆ
จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียที่มีกลิ่นหอม ต้องจุลินทรีย์หอมคาซาม่าเท่านั้น รู้ลึกและรู้จริงในเรื่องการบำบัดน้ำเสีย ปรึกษาเราได้ที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ลูกค้าที่สั่งซื้อจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียจากเราทุกๆท่านจะได้รับสิทธิ์ในการขอคำปรึกษาและให้คำแนะนำฟรีๆตลอดไป ได้ทั้งการบำบัดน้ำเสียและการกำจัดกลิ่นหรือดับกลิ่น ต้องจุลินทรีย์หอมคาซาม่าเท่านั้น ( โปรดระวังของลอกเลียนแบบจากที่อื่น )
จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย/การบำบัดน้ำเสียในคอนโดมิเนียมทุกๆแห่ง กดดูที่นี่.. จุลินทรีย์เติมบ่อบำบัดน้ำเสีย/จุลินทรีย์ใส่บ่อบำบัดน้ำเสีย คลิกดูที่นี่... ปัญหาบ่อเติมอากาศส่งกลิ่นเหม็นเกิดจากสาเหตุใด ? คลิกดูที่นี่.. เทคนิคการลดค่า BOD สูงในน้ำเสียทุกๆแห่ง คลิกดูที่นี่.. การบำบัดน้ำเสียและบำบัดกลิ่นในโรงงานไอศครีมทุกๆแห่ง คลิกที่นี่... การแก้ปัญหาน้ำเสียและกลิ่นในโรงงานปลาหมึกทุกๆแห่ง คลิกที่นี่.. การแก้ปัญหาน้ำเสียและกลิ่นในโรงงานขนมจีนทุกๆแห่ง คลิกที่นี่... การเช็คค่า BOD , pH , DO ของระบบบำบัดน้ำเสีย คลิกดูที่นี่... วิธีการลดค่า BOD , SS , TDS ในโรงงานปลากระป๋อง คลิกที่นี่.. จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย/จุลินทรีย์หอมบำบัดน้ำเสียทุกๆระบบ คลิกที่นี่..
จุลินทรีย์หอมคาซาม่ากับการดับกลิ่นบำบัดกลิ่น ดูหัวข้อที่สนใจ กดดูที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ จุลินทรีย์ดับกลิ่นส้วม/ดับกลิ่นส้วมเหม็น คลิกดูที่นี่.. จุลินทรีย์ดับกลิ่นห้องน้ำ คลิกดูที่นี่.. วิธีดับกลิ่นห้องน้ำเหม็น/วิธีแก้ห้องน้ำมีกลิ่น คลิกดูที่นี่... จุลินทรีย์ดับกลิ่นบ่อเกรอะเหม็น/ดับกลิ่นบ่อส้วมเหม็น คลิกที่นี่.. ปัญหากลิ่นในห้องน้ำมาจากอะไร ? คลิกดูที่นี่.. จุลินทรีย์ดับกลิ่น คลิกดูที่นี่... จุลินทรีย์หอมดับกลิ่น / จุลินทรีย์หอมบำบัดกลิ่น คลิกที่นี่.. จุลินทรีย์ดับกลิ่นคาวปลา ดับกลิ่นคาวเลือด คลิกที่นี่.. จุลินทรีย์ดับกลิ่นฟาร์มเลี้ยงหมู คลิกที่นี่... จุลินทรีย์ดับกลิ่นห้องน้ำในปั๊มน้ำมัน คลิกดูข้อมูลที่นี่.. จุลินทรีย์ดับกลิ่นเหม็นทุกๆชนิด คลิกดูที่นี่.. จุลินทรีย์บ่อเกรอะ/จุลินทรีย์ใส่บ่อเกรอะ คลิกดูที่นี่.. การใช้จุลินทรีย์หอมคาซาม่าในบ่อเกรอะ(บ่อส้วม) คลิกดูที่นี่... จุลินทรีย์ดับกลิ่นเหม็นทุกๆชนิด คลิกที่นี่..
|